#หน้าที่สำคัญของไอโอดีนต่อร่างกาย
1. ช่วยให้ระบบการทำงานและการเจริญเติบโตของต่อมไทรอยด์เป็นปกติและมีประสิทธิภาพ
2. ช่วยให้การทำงานของต่อมไทรอยด์มีผลต่อสภาพจิตใจ สภาพของผม ผิวหนัง เล็บ และฟัน ของร่างกาย
3. ควบคุมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง
4. ทำหน้าที่ควบคุมอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกาย
5. กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานและไขมันได้ดี
6. กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ช่วยให้หัวใจแข็งแรงและอัตราการเต้นเป็นปกติ
7. ควบคุมการทำงานของระบบประสาท การทรงตัว การเดิน รวมถึงการพูด
8. ควบคุมการเกิดความดันโลหิต และป้องกันระดับความดันผิดปกติ
9. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
10. กระตุ้นการหลั่งน้ำนมของสตรีให้นมบุตร
11. ช่วยในการเคลื่อนย้ายแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากกระดูก
#อาหารที่มีไอโอดีนสูงได้แก่
1. อาหารทะเลทุกชนิด อย่างเช่น ปลาทะเล สาหร่ายทะเล กุ้ง ปู หอย ปลาแซลมอน ปลากะพง ปลาทู ปลาทูน่า (เพราะในน้ำทะเลมีไอโอดีนสูง สัตว์ทะเลทุกชนิดจึงเป็นอาหารที่มีไอโอดีนสูงไปด้วย)
2. ผลิตภัณฑ์นม นมวัว
3. ไข่
4. น้ำมันตับปลา
5. กระเทียม
6. ผักกาดเขียว ผักขม
7. โยเกิร์ต
8. เมล็ดงา ถั่วเมล็ดแบน
9. สตรอเบอรรี่
10. เกลือทะเล
11. ผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนทุกชนิด เช่น เกลือเสริมไอโอดีน(เป็นอาหารที่มีไอโอดีนสูงที่ราคาถูก) น้ำดื่มเสริมไอโอดีน น้ำปลาเสริมไอโอดีน ซีอิ๊วขาวเสริมไอโอดีน บะหมี่เสริมไอโอดีน ไข่สดเสริมไอโอดีน กล้วยตากเสริมไอโอดีน
#ความต้องการไอโอดีนในแต่ละวัน
มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับประทานสารอาหารต่าง ๆ โดยระบุว่า ร่างกายควรได้รับไอโอดีนเฉลี่ยให้ได้ วันละ 50 – 150 ไมโครกรัมต่อวัน แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ต้องเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 200 ไมโครกรัมต่อวัน
ซึ่งสามารถแยกได้ตามช่วงวัย ดังนี้
เด็กแรกเกิด – 6 เดือน ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 40 – 50 ไมโครกรัม
เด็กอายุ 6 เดือน – 6 ปี ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 50 – 90 ไมโครกรัม
เด็ก 6 ปี – วันรุ่น ไม่เกิน 20 ปี ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 120 ไมโครกรัม
ผู้ใหญ่ ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 150 ไมโครกรัม
หญิงมีครรภ์ ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 200 ไมโครกรัม
หญิงให้นมบุตร ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 200 ไมโครกรัมขึ้นไป
ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ผลิตเกลือเสริมไอโอดีนจำหน่าย โดยให้มีอัตราส่วนไอโอดีนในเกลือ 30 ไมโครกรัมต่อเกลือ 1 กรัม ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ผสมเกลือเสริมไอโอดีนเพียง 2 กรัม เท่ากับว่าร่างกายได้รับไอโอดีน 60 ไมโครกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการป้องกันการขาดสารไอโอดีน รวมถึงป้องกันการเกิดโรคคอหอยพอกได้
ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง หรือง่ายๆก็ใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการทำอาหารก็จะทำให้เราได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ และหลีกพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บจากการขาดสารไอโอดีนได้
